ค้นหา
  
Search Engine Optimization Services (SEO)

ดิ อะเมซิ่ง เรซ 13

ดิ อะเมซิ่ง เรซ 13 (อังกฤษ: The Amazing Race 13) เป็นฤดูกาลที่ 13 ของรายการ ดิ อะเมซิ่ง เรซ ซึ่งเป็นเกมโชว์ประเภทเรียลลิตี้โชว์ระดับรางวัลเอ็มมี 8 สมัยซ้อนทางโทรทัศน์ รายการนี้จะมีผู้เข้าแข่งขันเป็นทีมๆ ละ 2 คนซึ่งรู้จักกันมาก่อนแล้ว ทำการแข่งขันโดยเดินทางรอบโลก โดยทีมที่ชนะจะได้รับเงินรางวัล 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเกมส์โชว์ดังกล่าวเริ่มออกอากาศในสหรัฐอเมริกาทางสถานีโทรทัศน์ซีบีเอส

สำหรับฤดูกาลที่ 13 นี้เป็นส่วนหนึ่งของรายการในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ของผังรายการโทรทัศน์ในสหรัฐอเมริกาประจำปี ค.ศ. 2008-09 โดยเริ่มออกอากาศในสหรัฐอเมริกาวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2551 (ณ เวลา 20 นาฬิกา ตามเวลามาตรฐานตะวันออก และเวลามาตรฐานแปซิฟิกของสหรัฐอเมริกา ทางช่องซีบีเอส ) และตอนสุดท้ายออกอากาศในวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2551 (ซึ่งในประเทศไทยเริ่มออกอากาศในวันที่ 29 กันยายน ทางช่อง เอเอ็กซ์เอ็น ณ เวลา 21 นาฬิกา และสิ้นสุดการออกอากาศในวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2551)

ดิ อะเมซิ่ง เรซ 13 ใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 23 วัน คิดเป็นระยะทางประมาณ 40,000 ไมล์ใน 8 ประเทศ 5 ทวีป รวมถึงยังไปเยือนยังประเทศที่ใน ดิ อะเมซิ่ง เรซ ฤดูกาลก่อน ๆ ไม่เคยไป เช่น โบลิเวีย กัมพูชา และ คาซัคสถาน นอกจากนี้ บราซิล นิวซีแลนด์ อินเดีย และ รัสเซีย ก็ยังถูกบรรจุไว้ในรายการประเทศที่จะเดินทางไปเยือนด้วย การแข่งขันนี้ยังเป็นครั้งที่สองที่มีการเดินทางไปทาง ทิศตะวันตก จากเดิมที่มักจะเดินทางไปทาง ทิศตะวันออก (โดยครั้งแรกที่มีการเดินทางไปทางทิศตะวันตกคือ ซีซั่นที่ 10)

การแข่งขันนี้ยังเป็นครั้งแรกที่มีทีมที่ถูกคัดออกไปแล้วที่ไม่สามารถมาเป็นสักขีพยานให้แก่ผู้ชนะได้ เพราะดัลลัส (คู่แม่ลูก โทนี่กับดัลลัส) ทำหนังสือเดินทางและเงินหายทั้งหมดในเลกที่ 10 โดยข้อมูลนี้ได้มีการประกาศออกมาเป็นนัย ในสื่อที่มีการโปรโมตการแข่งขันของซีบีเอสก่อนที่การแข่งขันจะออกอากาศทางโทรทัศน์ว่า มีทีมอยู่หนึ่งทีมที่ทำผิดพลาดแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ที่ทำให้พวกเขาไม่สามารถตามผู้เข้าแข่งขันที่เหลือมาจนถึงเส้นชัยได้ ในการสัมภาษณ์หลังการแข่งขันจบลง ดัลลัสเปิดเผยว่าจริง ๆ แล้วสาเหตุที่ทำให้พวกเขาทำหนังสือเดินทางและเงินหาย เกิดจากแบตเตอรี่ของไมโครโฟนจำเป็นต้องถูกเปลี่ยน ตามที่ดัลลัสเปิดเผย เขากล่าวว่าเขาอยู่ในรถแท็กซี่อีกคันหนึ่งก่อนที่เขาจะนึกออกว่าเงินและหนังสือเดินทางถูกทิ้งไว้ในรถแท็กซี่คันแรกที่เขาอยู่ ในที่สุดหนังสือเดินทางของทั้งโทนี่และดัลลัสได้ถูกส่งคืนให้กับสถานทูต ประจำสหรัฐอเมริกาในประเทศรัสเซีย อย่างไรก็ดีมันก็สายเกินไปที่พวกเขาจะกลับไปเป็นสักขีพยานให้กับผู้ชนะได้ อย่างไรก็ดี สตาร์เปิดเผยภายหลังว่าโทนี่กับดัลลัสกลับมาร่วมงานปาร์ตี้กับผู้แข่งขันคนอื่น ๆ ที่ พอร์ตแลนด์, ออริกอน ในคืนหลังจากที่การแข่งขันจบลง

ในการสัมภาษณ์เดียวกันนั้นเองหลังจากการแข่งขันจบลง มีการเปิดเผยว่าสตาร์กับดัลลัสเริ่มเดทกัน จนถึงปัจจุบัน (วันออกอากาศ) เป็นระยะเวลาถึง 6 เดือน

อย่างไรก็ตาม ในการออกอากาศได้มีการกล่าวไว้ว่าจะมีคำสั่ง ย้อนกลับ ทั้งหมด 2 ครั้งด้วยกัน แต่ในการออกอากาศตลอดทั้งฤดูกาลมีการออกอากาศคำสั่งย้อนกลับ เพียง 1 ครั้งเท่านั้นในเลกที่ 3 (ซึ่งไม่ได้ใช้) ซึ่งในการสัมภาษณ์หลังจากการแข่งขันอีกครั้งหนึ่งนั้น แอนดรูว์กับแดนกล่าวว่ามีคำสั่งย้อนกลับ (U-Turn) ครั้งที่สอง อยู่ในเลก 9 ซึ่งก็ไม่ได้ถูกใช้โดยทีมใดเลย และก็ไม่ได้มีการออกอากาศทางโทรทัศน์

ดิ อะเมซิ่ง เรซ 13 ปิดรับใบสมัครเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2550 การสัมภาษณ์รอบรองสุดท้ายมีขึ้นในเดือน ธันวาคม 2550 และการสัมภาษณ์เพื่อคัดตัวครั้งสุดท้ายมีขึ้นในเดือน กุมภาพันธ์ 2551 ใน ลอสแอนเจลิส, แคลิฟอร์เนีย โดยในการแข่งขันนี้มีทั้งคู่นักศึกษา คู่แต่งงานฮิปปี้ และอดีตผู้เล่นเอ็นเอฟแอล ที่หวังจะคืนดีกับภรรยาที่ห่างเหินมานาน ในระหว่างการแข่งขัน

ในการแข่งขันครั้งนี้ยังมีการเปิดตัวจอห์น คีโอแกน คุณพ่อของฟิล คีโอแกน พิธีกรของดิ อะเมซิ่ง เรซ ในฐานะผู้ต้อนรับประจำหมู่บ้านทีพูคี, นิวซีแลนด์ บ้านเกิดของฟิล

ซีบีเอสโปรโมต ดิ อะเมซิ่ง เรซ 13 อย่างหนักด้วยการติดป้ายโฆษณาบนยอดของอาคารที่ ท่าอากาศยานนานาชาติลอสแอนเจลิส ก่อนที่จะมีการออกอากาศ ต่างจากซีซั่นอื่น ๆ ที่ซีบีเอสไม่เคย เปิดเผยถึงสถานที่ที่จะไปล่วงหน้า แต่ใน ดิ อะเมซิ่ง เรซ 13 นี้ ซีบีเอสได้เปิดเผยแผนที่การเดินทางที่จะทำให้ทราบว่า ระหว่างการแข่งขัน มีการเดินทางไปที่ใดบ้าง ก่อนที่การแข่งขันจะออกฉายทางโทรทัศน์

ตารางแสดงชื่อ ความสัมพันธ์ของผู้แข่งขันในขณะถ่ายทำของแต่ละทีมพร้อมทั้งแสดงสถานะในการแข่งขัน ดังนี้ เรียงตามลำดับผู้เข้าเส้นชัยก่อน (ตารางนี้อาจไม่ได้แสดงข้อมูลที่ตรงกับข้อมูลที่ออกอากาศในโทรทัศน์เนื่องจากข้อมูลที่เพิ่มเข้ามาบางส่วน หรือข้อมูลที่ถูกนำออกไปบางส่วน)

หมายเหตุ 1: มาร์คกับบิลเดิมมาถึงเป็นลำดับที่ 8 ในเลกนี้ แต่โดนโทษปรับเวลา 30 นาทีเพราะใช้แท็กซี่ เคลลี่กับคริสตี้ (ทีมที่เหลืออยู่) มาถึงระหว่างที่มาร์คกับบิลโดนโทษปรับเวลาอยู่ ทำให้มาร์คและบิลตกลงมาอยู่อันดับสุดท้ายและถูกคัดออกจากการแข่งขันหมายเหตุ 2: นิคกับสตาร์โดนโทษปรับเวลา 30 นาทีในเลกที่ 4 จากการใช้ความเร็วเกินกำหนด อย่างไรก็ดีโทษปรับเวลานี้ไม่ได้ส่งผลต่อลำดับเดิมของพวกเขาทั้งตอนที่เข้าจุดพักและออกจากจุดพักเพื่อไปต่อ โดยโทษปรับเวลานี้ไม่มีการออกอากาศทางโทรทัศน์แต่อย่างใดหมายเหตุ 3: เทอเรนซ์กับซาร่าห์มาถึงเป็นลำดับที่ 3 แต่พวกเขาโดนใบสั่งข้อหาใช้ความเร็วเกินกำหนดที่นิวซีแลนด์ พวกเขาจะต้องรับโทษปรับเวลา 30 นาที แต่โทษปรับเวลานี้จะไปมีผล ณ เวลาที่ออกจากจุดพักในเลกที่ 5 เพื่อไปต่อในเลกที่ 6 ดังนั้นเมื่อคำนวณโทษปรับเวลาแล้ว พวกเขาจะออกจากจุดพักต่อไปเป็นลำดับที่ 5 แต่พวกเขาไม่ต้องรับโทษปรับเวลาตอนที่เข้า ณ จุดหยุดพัก ซึ่งทำให้ลำดับของพวกเขา ณ ช่วงที่เข้าจุดพักมายังอยู่ในลำดับ 3 เหมือนเดิมหมายเหตุ 4: แอนดรูว์กับแดนเดิมมาถึงเป็นลำดับที่ 4 แต่พวกเขานั่งแท็กซี่ไปที่จุดหยุดพัก แทนที่จะเดินไปตามคำสั่งในข้อมูลเส้นทาง พวกเขาจึงต้องกลับไปที่จุดสิ้นสุดของงานทางแยก และเดินมาจากที่นั่น อย่างไรก็ดีความผิดพลาดนี้ไม่ส่งผลต่อลำดับของพวกเขาหมายเหตุ 5: เคนกับทีน่าเดิมมาถึงเป็นลำดับที่ 3 ในเลกนี้ แต่พวกเขาอ่านคำใบ้และบังเอิญเดินมาที่จุดหยุดพักเลย โดยไม่ได้หยิบคำใบ้ที่อยู่ที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน VDNKh เมื่อเสร็จงานทางแยกมา พวกเขาจึงต้องกลับไปหยิบคำใบ้มาก่อนที่จะเข้าจุดหยุดพัก อย่างไรก็ดี ความผิดพลาดนี้ไม่ได้ส่งผลต่อลำดับของพวกเขาหมายเหตุ 6: โทนี่กับดัลลัส ไม่ได้ปฏิบัติตามคำสั่งที่ให้เดินทางมาที่สวนสาธารณะโซโกลนิกี้ (จุดเริ่มต้นของทางแยก) โดยแท็กซี่ (พวกเขาใช้รถไฟฟ้าใต้ดิน) จึงต้องกลับไปที่แฟลตของบูลกาคอฟ ที่เป็นจุดสิ้นสุดของงานอุปสรรค หลังจากทุกทีมเข้าจุดพักไปหมดแล้ว ฟิล จึงมาหาพวกเขาระหว่างที่พวกเขาทำงานทางแยกอยู่ และประกาศว่าพวกเขาถูกคัดออกจากการแข่งขัน

ในบางเลก ทางรายการจะมีรางวัลพิเศษให้กับทีมที่มาถึงจุดพักเป็นทีมแรก สำหรับรางวัลที่เป็นแพ็กเกจทัวร์ทั้งหมดสนับสนุนโดยแทรเวลโลซิตี้

5 ทีมแรกที่ถูกคัดออกถูกส่งมาที่ บ้านพักที่ อะคาปัลโก, เม็กซิโก เพื่อรอเป็นสักขีพยานให้แก่ผู้ชนะ ทีมที่ถูกคัดออกภายหลังโทรศัพท์เข้ามาที่บ้านพักเพื่อแจ้งข่าวการคัดออก แต่ยังคงเดินทางต่อไปเพื่อจะแจ้งข่าวล่วงหน้าเกี่ยวกับทีมที่ถูกคัดออกในการแข่งขันที่กำลังดำเนินอยู่ ทีมที่ถูกคัดออกภายหลังได้กลับมาพบกับทีมที่ถูกคัดออกก่อน ณ จุดหมายสุดท้าย (พอร์ตแลนด์) เพื่อเป็นสักขีพยานให้แก่ผู้ชนะเมื่อพวกเขาเข้าเส้นชัย อย่างไรก็ดี ทีมทั้งหมดไม่รวมทีมของโทนี่กับดัลลัส ที่ยังคงอยู่ในประเทศรัสเซียหลังจากพวกเขาถูกคัดออก เพราะดัลลัสทำหนังสือเดินทางหาย

ซีบีเอสโพสต์วิดีโอขนาดสั้นลงบนเว็บไซต์หลังจากแต่ละตอนออกอากาศ ตามเวลามาตรฐานแปซิฟิก เพื่อแสดงให้เห็นว่าแต่ละทีมทำอะไรบ้าง ระหว่างอยู่ที่บ้านพัก

ทางแยกในเลกนี้ แต่ละทีมจะต้องเลือกระหว่าง ขึ้นแบบแข็ง ๆ (Hard Way Up) และ ลงแบบนิ่ม ๆ (Soft Way Down) โดยทีมที่เลือกขึ้นแบบแข็ง ๆ จะต้องเลียนแบบพิธีทางศาสนาโดยไต่ขึ้น Escadaria do Passo โดยใช้แขนและหัวเข่าเท่านั้น เมื่อขึ้นไปถึงจุดสูงสุด พวกเขาจะถูกถามคำถามปริศนา (คุณไต่ขึ้นมากี่ขั้น ?) โดยทีมจะได้รับคำใบ้ต่อไปเมื่อตอบคำถามถูกต้อง หากตอบไม่ถูก ทีมจะต้องไต่บันไดขึ้นมาใหม่ (คำตอบที่ถูกต้องคือ 53 ขั้น) ส่วนลงแบบนิ่ม ๆ ทีมจะต้องขึ้นไปถึงยอดของ Elevador Lacerda (ลิฟต์กลางแจ้ง) ที่สูง 240 ฟุตและไต่ลงมาที่พื้นถนน เพื่อรับคำใบ้ต่อไป

ทางแยกในเลกนี้ ทีมจะต้องเลือกระหว่าง ชายหาด (Beach It) และ ท่าเรือ (Docket) โดยทีมที่เลือกชายหาดจะต้องเข็นเรือใบท้องถิ่นของบราซิล ที่รู้จักกันในชื่อ Jangada (อังกฤษ) ลงไปยังปากชายหาดโดยใช้ท่อนซุงกลิ้งเรือไป โดยมีคนท้องถิ่นช่วย เมื่อเสร็จแล้วจึงจะได้รับคำใบ้ต่อไป สำหรับทีมที่เลือกท่าเรือ ทีมจะได้รับชุดตัวเลขมา 1 ชุด หลังจากนั้นทีมจะต้องไปยังท่าเรือ Porto do Pec?m (โปรตุเกส) เมื่อไปถึง ทีมต้องใช้คอมพิวเตอร์เพื่อค้นหาชุดตัวเลขนั้น เพื่อให้พบตัวอักษร 4 ตัวที่อยู่ข้างหน้าที่จะเป็นตัวบอกว่าตู้สินค้านั้นอยู่ที่จุดใดของท่าเรือ หลังจากทีมค้าหาเสร็จ ทีมจะต้องหาตู้สินค้านั้นเพื่อหยิบคำใบ้ต่อไป ในอุปสรรคของเลกนี้ สมาชิกในทีมหนึ่งคนต้องหาชื่อของจุดหมายต่อไป (Cidade da Crian?a) บนกำแพงของสวนสาธารณะที่เต็มไปด้วยโฆษณา

ทางแยกในเลกนี้ ทีมจะต้องเลือกระหว่าง ดนตรีเดินแถว (Musical March) และ ถนนขรุขระ (Bumpy Ride) โดยทีมที่เลือก Musical March ทีมจะต้องหาวงมาร์ชท้องถิ่นและพาวงไปรอบเมือง หาสมาชิกที่กระจายอยู่ในเมือง และพาสมาชิกไปหาหัวหน้าวง ก่อนที่ทีมจะได้รับคำใบ้ต่อไป สำหรับทีมที่เลือก Bumpy Ride ทีมจะต้องขี่จักรยานไม้ลงมาบนถนนที่เต็มไปด้วยหินกรวด ก่อนที่ทีมจะได้รับคำใบ้ต่อไป อุปสรรคในเลกนี้ สมาชิกในทีมหนึ่งคนจะเรียนท่ามวยปล้ำ 6 ท่าจากนักมวยปล้ำอาชีพหญิง (Fighting Cholitas (Cholitas Luchadoras)) และขึ้นไปทำท่าเหล่านั้นบนเวที หลังจากสมาชิกคนนั้นทำครบ 6 ท่าที่กำหนดให้แล้ว ทีมจึงจะได้รับคำใบ้ต่อไป หากสมาชิกคนนั้นทำพลาดแม้แต่ท่าเดียว สมาชิกคนนั้นจะต้องกลับไปฝึกกับนักมวยปล้ำใหม่ก่อนที่จะขึ้นมาอีกครั้ง

ทางด่วนในเลกนี้ ทีมจะต้องปีนขึ้นไปบนยอดของสกายทาวเวอร์เพื่อนำโนมของทราเวลลอซิตี้ที่มีคำใบ้เพื่อไปสู่จุดหยุดพักต่อไปลงมา อุปสรรคในเลกนี้ สมาชิกหนึ่งคนในแต่ละทีมจะต้องเลือกภาพเขียนรอยสัก ที่กำหนดให้ แล้วนำไปจับคู่กับรอยสักที่อยู่บนหน้าของนักรบชาวมาวรีให้ถูกต้อง ก่อนที่จะได้รับคำใบ้ต่อไป สำหรับทางแยกในเลกนี้ทีมจะต้องเลือกระหว่าง ขึ้นอยู่กับเวลา (Matter Of Time) และ ขึ้นอยู่กับฝีมือ (Matter Of Skill) โดยทีมที่เลือก Matter Of Time จะต้องใช้เท้าบดกีวีหนึ่งถังเพื่อทำน้ำผลไม้ 12 ควอร์ต และแต่ละคนจะต้องดื่มน้ำกีวีนั้นคนละ 1 แก้วเมื่อทำเสร็จ ก่อนที่จะได้รับคำใบ้ต่อไป สำหรับทีมที่เลือก Matter Of Skill ทีมจะต้องประกอบโบลว์คาร์ท 2 คัน และสมาชิกในทีมจะต้องขี่โบลว์คาร์ทรอบสนามเป็นจำนวน 3 รอบก่อนที่จะได้รับคำใบ้ต่อไป

ทางแยกในเลกนี้ทีมจะต้องเลือกระหว่าง ชีวิตชาวบ้าน (Village Life) และ ทำงานอย่างชาวบ้าน (Village Work) โดยทีมที่เลือก Village Work ทีมจะต้องไปที่ทะเลสาบเขมรและนำปลา 2 ตะกร้าในกับดักที่กำหนดให้ มาให้คนบนฝั่งอ่าวเสียมเรียบที่ทะเลสาบเขมร สำหรับทีมที่เลือก Village Life ทีมจะต้องไปนำฟันปลอมหนึ่งชิ้นจากทันตแพทย์ ตุ๊กตา จากช่างตัดเสื้อ และลูกบาสเกตบอลบนสนามที่ลอยอยู่บนทะเลสาบเขมร สมาชิกแต่ละคนในทีมยังจะต้องเล่นบาสเกตบอลให้ลงตะกร้า 1 ครั้งก่อนที่จะนำสิ่งที่พวกเขาไปเก็บมาไปคืนคนบนฝั่ง อุปสรรคในเลกนี้ทีมจะต้องไปที่นครวัด และสมาชิกหนึ่งคนของแต่ละทีมจะต้องหา "ปราสาทกร๊อกธรอง" (หรืออีกชื่อหนึ่งว่า "ห้องเสียงสะท้อน") ที่เมื่อสมาชิกคนนั้นทุบหน้าอกของตน เขาจะได้ยินเสียงสะท้อนกลับมา ซึ่งในห้องนั้นจะมีรูปสลักหินอยู่ โดยคำใบ้ต่อไปจะอยู่ข้างหลังรูปสลักหินนั้น และทีมจะต้องนำรูปสลักหินนั้นไปที่จุดพักด้วย

อุปสรรคในเลกนี้ สมาชิกหนึ่งคนของแต่ละทีมจะต้องพ่นสีรถตุ๊กตุ๊ก สีดำให้เป็นสีเขียว เพื่อแสดงว่ารถคันนี้กำลังเปลี่ยนไปใช้น้ำมันไบโอดีเซล โดยก่อนที่จะพ่นสี สมาชิกคนนั้นจะต้องหุ้มตัวถังรถที่เป็นสีเหลือง ตัวกระจก และล้อ ของรถตุ๊กตุ๊กด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ ทางแยกในเลกนี้ แต่ละทีมจะต้องเลือกระหว่าง แลกเงิน (Launder Money) และ รีดผ้า (Launder Clothes) โดยทีมที่เลือก Launder Money ทีมจะต้องทำพวงมาลัย แต่งงานท้องถิ่นของชาวอินเดียโดยใช้ธนบัตรสกุลรูปี จำนวน 10 ฉบับให้ได้จำนวนเงิน 780 รูปี แล้วนำไปให้เจ้าบ่าวที่ำพราคาซ แบงเคว็ท ฮอลล์ เพื่อรับคำใบ้ต่อไป สำหรับทีมที่เลือก Launder Clothes ทีมจะต้องใช้เตารีด โบราณที่ใช้พลังงานถ่าน รีดผ้า 20 ชิ้น เพื่อรับคำใบ้ต่อไปจากคนรีดผ้า

อุปสรรคในเลกนี้ สมาชิกหนึ่งคนในแต่ละทีมจะต้องค้นหาซองคำใบ้ที่เขียนว่า ดิ อะเมซิ่ง เรซ ท่ามกลางซองคำใบ้นับร้อยที่มีคำว่า Sorry, Try again. (เสียใจด้วย ลองอีกครั้ง) บนบันไดที่อยู่ท่ามกลางงานฉลองในเทศกาลแห่งสี (เทศกาลโฮลี่) ทางแยกในเลกนี้ทีมจะต้องเลือกระหว่าง ปวดตา (Bleary Eyed) และ แสบตา (Teary Eyed) โดยทีมที่เลือก Bleary Eyed จะต้องเดินไปตามสายไฟฟ้าแล้วจดเลขที่อยู่บนสายไฟฟ้านั้นทั้งหมด แล้วนำไปรายงานคนตัดชุดหากตัวเลขทั้งหมดถูกต้อง ทีมจะต้องไปเสียบปลั๊กรูปปั้นของพระพิฆเนศวรก่อนที่จะได้รับคำใบ้ต่อไป สำหรับทีมที่เลือก Teary Eyed ทีมจะต้องขนพริกหนักกระสอบละ 40 ปอนด์ จำนวน 2 กระสอบ ไป 1/4 ไมล์ที่ร้านที่กำหนด แล้วตำพริกให้แหลกโดยใช้ ครกกับสาก ก่อนที่จะรับคำใบ้ต่อไปจากเจ้าของร้าน สำหรับงานเพิ่มเติมของเคนกับทีน่า พวกเขาจะต้องไปที่วัดสิกข์ แล้วบริการน้ำให้กับชาวสิกข์ จนกว่าจะไม่มีใครขอน้ำอีก พวกเขาจึงจะได้รับอนุญาตให้แข่งต่อและทำงานทางแยกได้

อุปสรรคในเลกนี้ สมาชิกหนึ่งคนในแต่ละทีมจะต้องค้นหาไข่ทองหนึ่งในเจ็ดใบ ท่ามกลางไก่กว่า 30,000 ตัวในโรงเลี้ยง ทางด่วนสุดท้ายในการแข่งขัน ทีมจะต้องไปยังร้านอาหาร แล้วรับประทาน ไขมันส่วนก้นของแกะ ซึ่งเป็นอาหารราคาแพงในประเทศคาซัคสถาน ทางแยกในเลกนี้ทีมจะต้องเลือกระหว่าง เล่นแบบบ้า ๆ (Play Like Mad) และ แสดงแบบโง่ ๆ (Act Like Fools) โดยทีมที่เลือก Play Like Mad จะต้องไปยังพิพิธภัณฑ์เครื่องดนตรีท้องถิ่นแห่งชาติ แล้วเล่นเพลงท้องถิ่นโดยใช้ ดอมบรา และ แชงโคบิช ต่อหน้าผู้คนในสวนสาธารณะเพื่อให้ได้เงินอย่างน้อย 1.50 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 180 เทนจ์คาซัค) ก่อนที่จะได้รับคำใบ้ต่อไป สำหรับทีมที่เลือก Act Like Fools จะต้องไปโรงละครหุ่นเชิด แล้วทั้งสองคนจะต้องสวมชุดคอสตูมของวัว แล้งเดินไปยังแท่นขายนม ที่ถนนซีเบ็ค ซอลลี่ ตัดถนนคูไนล์ แล้วดึ่มนมให้หมดแก้ว ซึ่งที่ก้นแก้วจะมีชื่อสถานที่ต่อไป (ตลาดเชลลีออน) ซึ่งทีมจะต้องไปรับคำใบ้ต่อไปที่ร้านที่กำหนด เมื่อเสร็จงานทางแยกแล้ว ทีมจะต้องนำดอมบรา หรือชุดคอสตูมวัว แล้วแต่กรณี ไปยังจุดหยุดพัก

ทางแยกในเลกนี้แต่ละทีมจะต้องเลือกระหว่าง บู๊ท (Boots) และ ซุป (Borscht) โดยแต่ละทีมจะต้องสวมเครื่องแบบทหารรัสเซียก่อน แล้วทีมที่เลือก Boots จะต้องเดินขบวนมาร์ชให้เข้ากับทหารที่จะเดินไปพร้อม ๆ กัน เมื่อครูฝึกเห็นว่าทีมเดินได้เรียบร้อย ทีมจึงจะได้รับคำใบ้ต่อไป สำหรับทีมที่เลือก Borscht ทีมจะต้องบริการ บอร์ช (ซุปบีทรูท) ให้ทหาร 75 นายก่อนที่จะได้รับคำใบ้ต่อไป อุปสรรคในเลกนี้ทีมจะต้องขนแป้งหนักกระสอบละ 55 ปอนด์ จำนวน 50 กระสอบ จากนอกร้านไปวางในร้าน ก่อนที่จะได้รับคำใบ้ต่อไปจากเจ้าของร้านขนมปัง

อุปสรรคในเลกนี้ สมาชิกหนึ่งคนในแต่ละทีมจะต้องนับจำนวนรูปปั้นของ โจเซฟ สตาลิน และ วลาดิมีร์ เลนิน ที่อยู่ในสวนสาธารณะ แล้วเดินทางไปที่ร้านขายหนังสือเพื่อบอกคำตอบกับผู้จัดการร้านหนังสือ โดยคำตอบที่บอกจะมีค่าเท่ากับ จำนวนรูปปั้นของเลนิน (6 รูปปั้น) เป็นหลักสิบ และจำนวนรูปปั้นของสตาลิน (2 รูปปั้น) เป็นหลักหน่วย หากตอบผิด สมาชิกคนนั้นจะต้องรอ 10 นาที จึงจะตอบใหม่ได้ หากถูกต้อง ทีมจะได้รับหนังสือ The Master and Margarita ที่เขียนโดย มีฮาอิล บุลกาคอฟ โดยสมาชิกคนนั้นจะต้องเปิดไปที่หน้า 62 (คำตอบที่ถูกต้อง) เพื่อค้นหาชื่อสถานที่ต่อไป (แฟลตของบุลกาคอฟ) ที่ซึ่งคำใบ้ต่อไปและสมาชิกอีกคนของทีมจะรออยู่

ทางแยกในเลกนี้แต่ละทีมจะต้องเลือกระหว่าง รถไฟ (Ride the Rails) และ รถราง (Ride the Lines) โดยทีมที่เลือก Ride the Rails จะต้องเดินทางโดย รถไฟฟ้าใต้ดินมอสโกจากสถานีรถไฟใต้ดินโซโคลนีกี (Sokolniki) ไปยังสถานีถนน 1905 (Ulitsa 1905 Goda) แล้วหยิบซามซ่ามาหนึ่งชิ้นมาจากแท่นขายขนม ข้อมูลที่อยู่บนกระดาษห่อจะบอกให้ทีมนั่งรถไฟใต้ดินไปที่ สถานีคิไทโกรอช (Kitay-Gorod) แล้วนำอาหารนั้นไปส่งให้กับผู้หญิงที่สวมบาบุชก้า (ผ้าโพกหัวชนิดหนึ่ง) ที่อยู่หน้าอนุสาวรีย์นักบวชเซนต์ ซีริล และ เซนต์ มีโธดิอัส ผู้ประดิษฐ์ อักษรซีริลลิก ที่จัตุรัสสลาเวียนสกายา (Slavyanskaya) สำหรับทีมที่เลือก Ride The Lines จะต้องนั่งรถรางบัส จากสถานีรถไฟใต้ดินโซโคลนีกีไปที่ สถานีรถไฟใต้ดินคราสโนเซลสกายา (Krasnoselskaya) เพื่อไปรับกุญแจจากช่างทำกุญแจ แล้วนำกุญแจนั้นมาเปิดล็อกเกอร์ที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินริชสกายา (Rizhskaya) เมื่อทีมทำงานทางแยกเสร็จแล้ว ทีมจะได้รับโปสต์การ์ตที่มีภาพของสถานีรถไฟใต้ดินเวเดเอนฮา และหลังโปสต์การ์ตจะมีคำอธิบายให้ทีมค้นหากล่องคำใบ้บริเวณรอบสถานีนั้น เพื่อหยิบคำใบ้ต่อไป สำหรับงานเพิ่มเติมของแอนดริวกับแดน พวกเขาจะต้องเรียนและเต้นแบบท้องถิ่นรัสเซียให้เป็นที่พอใจแก่ครูสอนเต้นรำ ก่อนที่จะกลับไปทำงานทางแยก

ในทางแยกสุดท้ายของการแข่งขันนี้ แต่ละทีมจะต้องเลือกระหว่าง สูงแห้ง (High & Dry) และ ต่ำเปียก (Low & Wet) โดยทีมที่เลือก High & Dry สมาชิกทั้งสองคนในทีมจะต้องปีนต้นไม้ ไป 30 ฟุต เดินข้ามท่อนซุงยาว 40 ฟุตที่พาดอยู่บนอากาศ และกระโดดไปหยิบคำใบ้คนละครึ่งส่วนจากบนอากาศ หากสมาชิกคนใดก็ตามตกจากท่อนซุงโดยที่ไม่ได้คำใบ้ สมาชิกคนนั้นจะต้องเริ่มทำใหม่ตั้งแต่ต้น สำหรับทีมที่เลือก Low & Wet จะต้องเดินไปบนสะพานซุงที่ลอยอยู่กลางน้ำเป็นระยะทาง 850 ฟุต เพื่อไปหยิบคำใบ้จากอีกฝั่งของลำน้ำ แล้วเดินกลับมา


 

 

รับจำนำรถยนต์ รับจำนำรถจอด

เบอร์ลินตะวันออก ประเทศเยอรมนีตะวันออก ปฏิทินฮิบรู เจ้า โย่วถิง ดาบมังกรหยก สตรอเบอร์รี ไทยพาณิชย์ เคน ธีรเดช อุรัสยา เสปอร์บันด์ พรุ่งนี้ฉันจะรักคุณ ตะวันทอแสง รัก 7 ปี ดี 7 หน มอร์ มิวสิค วงทู อนึ่ง คิดถึงพอสังเขป รุ่น 2 เธอกับฉัน เป๊ปซี่ น้ำอัดลม แยม ผ้าอ้อม ชัชชัย สุขขาวดี ประชากรศาสตร์สิงคโปร์ โนโลโก้ นายแบบ จารุจินต์ นภีตะภัฏ ยัน ฟัน เดอร์ไฮเดิน พระเจ้าอาฟงซูที่ 6 แห่งโปรตุเกส บังทันบอยส์ เฟย์ ฟาง แก้ว ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์ เอ็มมี รอสซัม หยาง มี่ ศรัณยู วินัยพานิช เจนนิเฟอร์ ฮัดสัน เค็นอิชิ ซุซุมุระ พอล วอล์กเกอร์ แอนดรูว์ บิ๊กส์ ฮันส์ ซิมเมอร์ แบร์รี ไวต์ สตาญิสวัฟ แลม เดสมอนด์ เลเวลีน หลุยส์ที่ 4 แกรนด์ดยุคแห่งเฮสส์และไรน์ กีโยม เลอ ฌ็องตี ลอเรนโซที่ 2 เดอ เมดิชิ มาตราริกเตอร์ วงจรรวม แจ็ก คิลบี ซิมโฟนีหมายเลข 8 (มาห์เลอร์) เรอัลเบติส เฮนรี ฮัดสัน แคว้นอารากอง ตุ๊กกี้ ชิงร้อยชิงล้าน กันต์ กันตถาวร เอก ฮิมสกุล ปัญญา นิรันดร์กุล แฟนพันธุ์แท้ 2014 แฟนพันธุ์แท้ 2013 แฟนพันธุ์แท้ 2012 แฟนพันธุ์แท้ 2008 แฟนพันธุ์แท้ 2007 แฟนพันธุ์แท้ 2006 แฟนพันธุ์แท้ 2005 แฟนพันธุ์แท้ 2004 แฟนพันธุ์แท้ 2003 แฟนพันธุ์แท้ 2002 แฟนพันธุ์แท้ 2001 แฟนพันธุ์แท้ 2000 บัวชมพู ฟอร์ด ซาซ่า เดอะแบนด์ไทยแลนด์ แฟนพันธุ์แท้ปี 2015 แฟนพันธุ์แท้ปี 2014 แฟนพันธุ์แท้ปี 2013 แฟนพันธุ์แท้ปี 2012 ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ พรสวรรค์ บันดาลชีวิต บุปผาราตรี เฟส 2 โมเดิร์นไนน์ ทีวี บุปผาราตรี ไฟว์ไลฟ์ แฟนพันธุ์แท้ รางวัลนาฏราช นักจัดรายการวิทยุ สมเด็จพระสันตะปาปาปิอุสที่ 7 แบร์นาร์แห่งแกลร์โว กาอึน จิรายุทธ ผโลประการ อัลบาโร เนเกรโด ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ แอนดรูว์ การ์ฟิลด์ เอมี่ อดัมส์ ทรงยศ สุขมากอนันต์ ดอน คิง สมเด็จพระวันรัต (จ่าย ปุณฺณทตฺโต) สาธารณรัฐเอสโตเนีย สาธารณรัฐอาหรับซีเรีย เน็ตไอดอล เอะโระเก คอสเพลย์ เอวีไอดอล ช็อคโกบอล มุกะอิ

 

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40
41
42
43
44
45
46
47
48
49
50
51
52
53
54
55
56
57
58
59
60
61
62
63
64
65
66
67
68
69
70
71
72
73
74
75
76
77
78
79
80
81
82
83
84
85
86
87
88
89
90
91
92
93
94
95
96
97
98
99
100
101
102
103
104
105
106
107
108
109
110
111
112
113
114
115
116
117
118
119
120
121
122
123
124
125
126
127
128
129
130
131
132
133
134
135
136
137
138
139
140
141
142
143
144
145
146
147
148
149
150
151
152
153
154
155
156
157
158
159
160
161
162
163
164
165
166
167
168
169
170
171
172
173
174
175
176
177
178
179
180
181
182
183
184
185
186
187
188
189
190
191
192
193
194
195
196
197
198
199
200
201
202
203
204
205
206
207
208
209
210
211
212
213
214
215
216
217
218
219
220
221
222
223
224
225
226
227
228
229
230
231
232
233
จำนำรถราชบุรี รถยนต์ เงินด่วน รับจำนำรถยนต์ จำนำรถยนต์ จำนำรถ 23301